QR Code คืออะไร รหัสย่อมาจากอะไร มีประโยชน์อย่างไร?

ในสังคมปัจจุบัน  เรามีการใช้ QR Code อยู่ในชีวิตประจำวันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสแกน QR Code เพื่อรับข้อมูลต่าง ๆ หรือการใช้ Mobile Banking ร่วมกับระบบ QR Code ก็สามารถพบเจอได้มากขึ้นแต่ยังมีหลายคนอาจสงสัยว่าคิดว่า QR Code คืออะไร สามารถช่วยให้การใช้ชีวิตของเราไม่ขึ้นได้อย่างไรบ้าง?

บทความนี้ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับ QR Code เพื่อที่จะสามารถตอบคำถามที่ว่า QR Code คืออะไร รวมถึง ข้อมูลเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ QR Code เพื่อให้เข้ากับวิธีการทำการตลาดในปัจจุบัน พร้อมวิธีการสร้างลิงก์ให้เป็น QR Code ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย อ่านได้ด้านล่างเลย!

QR Code ย่อมาจาก Quick Response Code โดย QR code อ่านว่า “คิวอาร์โค้ด”  ในภาษาไทย แล้ว QR Code คืออะไร? คิวอาร์โค้ดคือโค้ด 2 มิติที่ช่วยให้เราเข้าสู่ข้อมูลได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ซึ่ง QR Code ถูกคิดค้นขึ้นจากบริษัท Denso-Wave ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปปีค.ศ. 1994 และแพร่หลายไปทั่วโลก

QR Code ถูกนำมาปรับใช้ให้สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่เว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ผู้กำหนดต้องการ เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลง่ายดายมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น QR Code ยังถูกพัฒนาเพื่อใช้กับแอปพลิเคชัน Mobile Banking ต่าง ๆ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานระบบ Cashless ลดการสัมผัส ลดเชื้อโรคในช่วงโควิด 19 และยังคงใช้ต่อมาเรื่อย ๆ ซึ่งการใช้งาน QR Code ง่ายมากๆเพียงแค่ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสแกนก็สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้

หลายคนอาจคิดว่า QR Code มีเพียงประเภทเดียวที่เห็นกันบ่อย ๆ ความจริงแล้ว QR Code สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทด้วยกัน ประเภทของ QR Code คืออะไรบ้าง? เราได้รวบรวมประเภทต่าง ๆ ของ QR Code มาไว้ทั้งหมด 5 แบบ ดังต่อไปนี้ 

1. QR Code Model 1 และ Model 2 เป็น QR Code ที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน โดย Model 1 คือ QR Code ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในช่วงแรก สามารถบรรจุข้อมูลได้ 1,167 ตัวอักษร ส่วน Model 2 ปรับปรุงมาจาก Model 1 สามารถบรรจุข้อมูลได้ 7,089 ตัวอักษร เป็นชนิดที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน

2. Micro QR Code เป็น QR Code ที่มีขนาดเล็กกว่าแบบแรกมาก สามารถบรรจุข้อมูลได้ทั้งหมด 35 ตัวเลข และแสดงผลแค่บางจุดตรวจตำแหน่งเท่านั้น

3. IQR Code เป็นรูปแบบ QR Code ที่พิมพ์เป็นแนวนอน แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า QR Code แบบดั้งเดิม แต่สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่า 80% หรือก็คือประมาณ 40,000 ตัวอักษร

4. SQRC ย่อมาจาก Security QR Code มีคุณสมบัติคล้าย QR Code Model 1 และ Model 2 แต่พิเศษที่สามารถจำกัดการเข้าถึงข้อมูล หมายความว่า QR Code ชนิดนี้ทำข้อมูลให้เป็นความลับได้

5. Frame QR คือ QR Code ที่สามารถเพิ่มรูปภาพบริเวณกลาง QR Code ได้ ซึ่งมักใช้กันในงานประชาสัมพันธ์ หรืออีเวนต์ต่าง ๆ เพื่อสร้างความดึงดูดให้กับผู้ใช้งาน

ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ประกอบการมักนำ QR Code มาใช้เพื่อให้คนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้คนใช้สมาร์ทโฟนเป็นหลัก และมีระบบรองรับ QR Code ในตัวเครื่องอยู่แล้ว ดังนั้นจึงสะดวกสบายต่อการวางแผนต่อไป เราจึงขอแนะนำประโยชน์ต่อธุรกิจของ QR Code ว่าคืออะไร ดังนี้

• สามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลหลังจากการเผยแพร่แล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนลิงก์

• สามารถเช็กยอดผู้สแกน QR Code ได้ ช่วงวางแผนการทำการตลอดต่อไป

• QR Code ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้สามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างหลากหลาย

• สามารถวาง QR Code ไว้ได้ในหลากหลายสื่อ ไม่ว่าจะเป็นในหน้าเว็บไซต์, วิดีโอ, นิตยสาร หรือนามบัตร เป็นต้น

เราสามารถสร้าง QR Code ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพียงแค่มีลิงก์ที่ต้องการเปลี่ยนให้เป็น QR Code ก็เพียงพอ โดยขั้นตอนต่าง ๆ มีดังนี้

• เข้าสู่เว็บไซต์ https://th.qr-code-generator.com/ หรือ https://www.websiteplanet.com/th/webtools/free-qr-code-generator/

• กรอก URL ที่ต้องการลงในช่อง แล้วจึงทำการกดสร้าง

• ดาวน์โหลด QR Code ที่ได้ไปใช้งานกันเลย !

เพียงแค่ 3 ขึ้นตอนง่าย ๆ ก็ได้ QR Code ไปใช้งานโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นอกจากฟังก์ชัน QR Code แล้ว เว็บไซต์ทั้งสองยังสามารถใช้งานแบบอื่น ๆ ได้อีกมากมาย สามารถเข้าไปหาคำตอบว่านอกจากการทำ QR Code แล้วอย่างอื่นคืออะไรบ้าง

คำถามยอดฮิตของคนที่สงสัยว่าโค้ด Barcode และ QR Code คืออะไร มักจะถามต่อว่าทั้งสองนี้  แตกต่างกันหรือไม่ ต้องบอกเลยว่า QR Code เป็นโค้ดรูปแบบ 2 มิติ แต่ Barcode จะเป็นโค้ดรูปแบบ 1 มิติ ทำให้ QR Code สามารถจุข้อมูลได้มากกว่า Barcode นั่นเอง

QR Code ไม่มีวันหมดอายุ สามารถใช้งานได้ตลอดหลังจากสร้างแล้ว แต่หากเว็บไซต์ที่เป็นต้นทางถูกลบเนื้อหา หรือถูกจัดเก็บถาวร อาจทำให้ไม่แสดงผลหลังสแกน QR Code ได้

การใช้งาน QR Code จำเป็นต้องเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต ดังนั้น ซิมเทพจึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากซิมเน็ตรายปีจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายดาย จ่ายครั้งเดียวก็สามารถใช้งานได้ถึง 12 เดือน มีให้เลือกหลากหลายค่า ไม่ว่าจะเป็น TRUE, AIS หรือ DTAC ก็เลือกได้ตามต้องการ