Esim (Embedded Sim) คืออะไร ต่างจากซิมทั่วไปอย่างไร?

ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างก้าวไกล ปัจจุบันได้มีการพัฒนา Sim card โทรศัพท์ให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานมากที่สุด และนวัตกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ก็คือ eSim นั่นเอง แล้ว eSim คืออะไร? ใครหลายคนอาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ eSim ว่าแตกต่างจากซิมการ์ดแบบอื่น ๆ อย่างไร หรือข้อดี ข้อเสียของ eSim มีอะไรบ้าง 

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ eSim เพื่อเป็นแหล่งข้อมูล ข้อดีและข้อเสีย eSim ในการใช้ประกอบการตัดสินใจ สำหรับผู้ที่กำลังลังเลในการเปลี่ยนซิมการ์ดของตนเองเป็น eSim พร้อมตอบข้อสงสัยให้เคลียร์ ไม่ว่าจะเป็นคำถามแบบไหนก็มีคำตอบที่นี่ ! 

eSim หรือที่ย่อมาจาก Embedded SIM เป็นเทคโนโลยีซิมการ์ดใหม่ล่าสุด มีขนาดเล็กกว่านาโนซิมการ์ด (Nano SIM) โดย eSim คือซิมที่มีลักษณะเป็นชิป ฝังลงในอุปกรณ์สื่อสาร ไม่จำเป็นที่จะต้องถอดหรือใส่ซิมชนิดนี้ให้วุ่นวาย

จุดเด่นของอีซิมก็คือเทคโนโลยี M2M หรือ Machine to Machine ที่ทำให้อุปกรณ์สามารถส่งข้อมูลกันได้ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตคือสิ่งสำคัญ คาดว่าเทคโนโลยี M2M จะสามารถพัฒนาไปจนมีมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

แล้ว eSim มีความแตกต่างกับซิมการ์ดชนิดอื่น ๆ อย่างไร? อย่างแรกเลยคือ eSim เป็นซิมที่ไม่สามารถถอดออกได้เองเหมือนซิมชนิดอื่น ๆ เนื่องจากเป็นซิมที่ต้องฝังลงในเครื่องมือสื่อสาร สะดวกต่อการใช้งานโดยไม่ต้องถอดซิมเปลี่ยนให้กลัวหาย ไม่ต้องเพิ่มความเร็วเน็ตจากการเปลี่ยนซิม

อีกหนึ่งข้อแตกต่างของ eSim คือ เป็นซิมที่มีขนาดเล็กเพียง 5 x 5 มิลลิเมตรเท่านั้น หากเทียบกับนาโนซิมที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน eSim จะมีขนาดเล็กกว่าเป็นเท่าตัว ไม่ต้องห่วงเรื่องพื้นที่ที่จำเป็นต่อการใช้งาน

เหตุผลที่ต้องเปลี่ยนเป็น  eSim คืออะไร? แม้ว่า Nano SIM ที่ใช้งานกันอย่างกว้างขวางอยู่ในปัจจุบัน จะสามารถรองรับเครือข่าย IoT ซึ่งเป็นการใช้งานด้านอินเตอร์เน็ตไปได้อีกนานหลายปี แต่เชื่อว่าเทคโนโลยี eSim ถูกนำมาปรับใช้ให้การใช้งานระบบอุปกรณ์สื่อสารง่ายดายมากยิ่งขึ้นในอนาคต ดังนั้น เราจึงควรทำความรู้จักกับเทคโนโลยี eSim เพื่อที่จะสามารถเข้าใจก่อนการเปลี่ยนมาใช้งาน eSim 

เทคโนโลยี eSim คือการฝังซิมเข้ากับอุปกรณ์สื่อสาร หรือสมาร์ทโฟนโดยตรง ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทำซิมหาย เนื่องจากผู้ใช้งานไม่สามารถถอด eSim เองได้ ต่างจากการใช้ซิมชนิดอื่น ๆ ที่ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนด้วยตนเอง ดังนั้นจึงไม่ต้องเป็นต้องกังวลเรื่องการทำซิมหายหรือซิมถูกขโมย

ก่อนที่เราจะทำการเปลี่ยนซิมของตัวเองให้เป็น eSim เราควรตรวจสอบก่อนว่าอุปกรณ์ของตนเองนั้นสามารถรองรับ eSim ได้หรือไม่ เนื่องจาก eSim คือซิมที่ต้องทำการฝังโดยผู้ประกอบการที่ทำการผลิตเครื่องมือสื่อสารเหล่านั้น

• iPhone 15/ iPhone 15 Plus/ iPhone 15 Pro/ iPhone 15 Pro Max

• iPhone 14/ iPhone 14 Plus/ iPhone 14 Pro/ iPhone 14 Pro Max

• iPhone 13 mini/ iPhone 13/ iPhone 13 Pro/ iPhone 13 Pro Max

• iPhone 12 mini/ iPhone 12/ iPhone 12 Pro/ iPhone 12 Pro Max

• iPhone SE (รุ่นที่ 2)

• iPhone 11/ iPhone 11 Pro/ iPhone 11 Pro Max

• iPhone XS/ iPhone XS Max

• iPhone XR 

• Galaxy S23 5G/ Galaxy S23 Plus 5G/ Galaxy S23 Ultra 5G

• Galaxy Note 20/ Galaxy Note 20 5G/ Galaxy Note 20 Ultra/ Galaxy Note 20 Ultra 5G

• Galaxy S22 5G/ Galaxy S22 Plus 5G/ Galaxy S22 Ultra 5G

• Galaxy S21 5G/ Galaxy S21 Plus/ Galaxy S21 Ultra 5G

• Galaxy S20/ Galaxy S20 Plus/ Galaxy S20 Ultra 5G

• Galaxy Z Flip/ Galaxy Z Flip 3/ Galaxy Z Flip 4

• Galaxy Fold/ Galaxy Z Fold 2 5G/ Galaxy Z Fold 3/ Galaxy Z Fold 4

• Mate Xs

• P40

• P40 Pro

การทําซิมให้เป็น eSim นั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เราขอยกตัวอย่างการทำซิมปกติให้เป็น eSim ในเครื่อง iPhone โดยเข้าสู่เมนูการตั้งค่าและกดเลือกเมนู ‘เซลลูลาร์’ จากนั้นเลื่อนไปยังเมนูของผู้บริการที่ให้บริการเครือข่ายของคุณ และเลือกที่เมนู ‘เปลี่ยนเป็น eSim’ เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอนง่าย ๆ ก็สามารถเปลี่ยนซิมปกติธรรมดาของคนให้กลายเป็น eSim

ซิมเทพ เป็นซิมที่ผู้ให้บริการออกมาเพื่อให้เป็นซิมเน็ตรายปี ไม่ว่าจะเป็นค่าย TRUE, AIS หรือ DTAC ก็มีโปรโมชั่นซิมเทพออกมาหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ซิมเทพมีรูปแบบเป็น Physical SIM คือซิมที่ต้องนำใส่เข้าเครื่องด้วยตนเอง แต่ eSim คือซิมที่มากับตัวเครื่อง จึงสามารถเปลี่ยนซิมเทพเป็น eSim ได้โดยไม่ยุ่งยากเพียงเลือกในเครื่องมือสื่อสารเหล่านั้น

หากเครื่องมือสื่อสารของคุณรองรับการใช้งาน 5G นั่นหมายความว่า eSim ในเครื่องมือสื่อสารของคุณจะสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ต 5G ได้เช่นกัน

เราไม่สามารถนำ eSim ออกจากเครื่องได้เพราะ eSim คือซิมที่ถูกฝังไว้กับเครื่องมือสื่อสาร แต่เราสามารถยกเลิกการใช้ซิมของเราเมื่อเป็น eSim แล้วได้ เช่น คุณใช้ iPhone สามารถเลือกเมนู ‘Cellular’ และเลือกลบข้อมูล eSim 

หากคุณมีเบอร์โทรศัพท์ 2 เบอร์ได้ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเปลี่ยนเบอร์ไหนให้เป็น eSim เราขอแนะนำว่าควรเปลี่ยนเบอร์รองมากกว่าเบอร์หลัก เนื่องจาก eSim คือซิมที่ถูกฝังอยู่กับเครื่องมือสื่อสาร หากเครื่องมือนั้นจำเป็นต้องซ่อม เราจะไม่สามารถดึง eSim ออกมา จึงควรให้เบอร์หลักเป็นซิมปกติ เพื่อที่จะสามารถย้ายไปใช้ในเครื่องอื่นได้

หากคุณมีซิมคู่ สามารถเลือกให้ใช้ซิมหนึ่งเป็นซิมทั่วไป และอีกซิมเป็น eSim ได้ไม่ต่างจากการมี 2 เบอร์ เพื่อที่คุณจะสามารถดึง 1 ซิมออกไปใช้ในเครื่องมือสื่อสารอื่น ๆ และอีกซิมเป็น eSim ที่ฝังอยู่กับเครื่องมือนั้น ๆ 

หากคุณต้องการเปลี่ยนเบอร์ของคุณให้เป็น eSim สามารถทำได้ในเครื่องมือสื่อสารของตนเอง เนื่องจาก eSim เป็นสิ่งที่ถูกฝังอยู่ในตัวเครื่องอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องหาซื้อที่ร้านภายนอก แต่หากคุณสนใจเปลี่ยนซิมเทพให้เป็น eSim สามารถอ่านรายละเอียดอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ของเรา